บริษัท ยีเอส ยัวซ่า สยามอินดัสตรีส์ จำกัด และ บริษัทยีเอส ยัวซ่า สยามเซลล์ บริษัทในกลุ่ม บริษัทสยามกลการ และ GS Yuasa International ผู้ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ไฟฟ้า สำหรับรถโฟล์คลิฟท์ และแบตเตอรี่อุตสาหกรรม ยีเอส ยัวซ่า สยามอินดัสตรีส์ เป็นบริษัทถูกจัดตั้งขึ้นโดย บริษัทยีเอส ยัวซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นและเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ที่มีฐานการผลิตในประเทศญี่ปุ่น และมีการขยายตัวที่เข้าสอดคล้องกับการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลโดยมาจัดตั้งบริษัทในประเทศไทย ใช้ชื่อว่า ยีเอส ยัวซ่า สยามอินดัสตรีย์ เพื่อดำเนินการผลิตแบตเตอรี่ และส่งจำหน่ายให้แก่ตัวแทนจำหน่ายทั้งภายในและภายนอกประเทศ มีการเปิดการผลิตอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2551 ซึ่งในปีนี้นับว่าเป็นปีที่ 8 ที่มีการเปิดสายการผลิตในไทยอย่างเป็นทางการ
ปัจจุบันได้เปิด 2 สายการผลิต โดยบริษัทมีแผนการดำเนินงานจะติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์เพิ่มอีก 5 สายการผลิต แต่ยังไม่มีการต่อเติมในส่วนของอาคารก่อสร้างใดๆทั้งสิ้น ในส่วนของการผลิต บริษัทได้ใส่ใจการผลิตทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานในขณะปฎิบัติหน้าที่ ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
ในปีนี้บริษัทได้รับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิ์การแรงงาน ประจำปี 2559 ประเภทสถานประกอบกิจการขนาดกลาง จากกระทรวงแรงงานที่ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง และผู้แทนฝ่ายรับบาลเป็นผู้พิจารณาหลักเกณฑ์และผลการตัดสินในครั้งนี้ โดยมีหลักเกณฑ์การประกวด คือ 1.สถานประกอบกิจการที่จะสมัครเข้าร่วมการประกวดจะต้องเป็นสถานประกอบกิจการที่อยู่ภายใต้บังคับและปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการแรงงานสัมพันธ์และกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน โดยต้องนําเสนอผลงานทั้งด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงานที่ปฏิบัติ อย่างชัดเจน 2. ในปีที่ส่งเข้าประกวดจนกระทั่งถึงเวลาประกาศผลรางวัลหากเกิดกรณีที่ทำให้สถานประกอบกิจการไม่สามารถปฎิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ หากเกิดเหตุการณ์ต่างๆในบริษัท เช่น การประท้วง หรือมีข้อร้องเรียน หรือเหตุการณ์อื่นใดที่ส่งผลต่อการพิจารณา คณะอนุกรรมการพิจารณาอาจพิจารณาไม่ให้รางวัลแก่สถานประกอบกิจการดังกล่าวได้
ด้านสิ่งแวดล้อมบริษัทได้มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น เพื่อกำหนดขอบเขตแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพโครงการโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ของบริษัทที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนใกล้เคียง ทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ
บริษัทใส่ใจในสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการในการผลิตสินค้า มีการทำการประเมินผลกระทบต่างๆที่อาจส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม ทุกขั้นตอนการผลิตจะช่วยลดภาระและมลพิษต่างๆที่จะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม โดยลดการใช้พลังงาน หลีกเหลี่ยงการปล่อยของเสีย และเพิ่มกระบวนการรีไซเคิลนำสิ่งของกลับมาใช้ซ้ำ ซึ่งบริษัทจะมีการปรับปรุงแผนการดำเนินงานนี้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามบริษัทได้ผ่านระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องตามหลักมาตรฐาน ISO14001 และเพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในการดำเนินงาน ทำงานให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น
นอกจากนี้พนักงานของบริษัททุกคนผ่านการอบรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมที่จะสนับสนุนและส่งเสริมให้ทุกคนมีความตระหนักเห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาโรงงานผลิตสารเคลือบผิวของบริษัท พีพีจี อินดัสตรีส์ หรือ NYSE: PPG ในอำเภอบางพลีได้รับรางวัล Zero Accident Award จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน
สำหรับรางวัล Zero Accident Award มอบให้แก่บริษัทที่มีความเป็นเลิศในการป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงาน ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับโครงการส่งเสริมสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัย ในประเทศไทย โรงงานของพีพีจีที่อำเภอบางพลีได้รับรางวัลเกียรติคุณระดับทองแดงจากนายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะสถานประกอบกิจการที่ปราศจากอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน ต่อเนื่องตั้งแต่ 1–2.99 ล้านชั่วโมงการทำงาน
นายเกียรติ วิศาลรักษ์กิจ ผู้จัดการโรงงานที่บางพลี เปิดเผยว่า บริษัทภูมิใจที่ความมุ่งมั่นเพื่อความปลอดภัยของบริษัท ได้รับการยกย่อง บริษัทมีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยร่วมกับพนักงานของเราทุกคน โดยเราดำเนินงานและลงทุนด้านอุปกรณ์ เพื่อมอบความปลอดภัยในระดับสูงสุด
โรงงานแห่งนี้ใช้ระบบรายงานอุบัติเหตุแบบ near-miss หรือ เหตุการณ์ที่เกือบเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงใช้ระบบแทรกแซงในเชิงบริหารจัดการ พร้อมให้การยกย่องบุคลากรที่ปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย แนวทางปฏิบัติเหล่านี้ส่งผลให้ทางโรงงานสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น และยังช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยของโรงงานอีกด้วย
พีพีจี อินดัสตรีส์ มีวิสัยทัศน์ที่จะรักษาสถานะการเป็นบริษัทผู้ผลิตสารเคลือบผิวและวัสดุพิเศษชั้นนำของโลก ด้วยความเป็นผู้นำในนวัตกรรม ความยั่งยืน และสี พีพีจีช่วยให้ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม การขนส่ง ผลิตภัณฑ์ผู้บริโภค และการก่อสร้าง รวมถึงตลาดหลังการขาย สามารถยกระดับพื้นผิวในหลากหลายรูปแบบและหลากหลายวิธีกว่าบริษัทรายอื่นๆ