บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชา)หรือ OSP เข้ารับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2563 สรุปผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกพร้อมวางแผนการลงทุนวางงบลงทุนในปีนี้ 4,000 ล้านบาท
นางสาวจิตอาภา อัมราลิขิต หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ทางการเงิน บริษัทโอสถสภา จำกัด (มหาชน) OSP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส1/2563 บริษัทยังคงมีผลยอดขายของสินค้าประเภทเครื่องดื่มออกมาดี ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยในไตรมาสที่2 ปี2563 บริษัทได้วางแผนเพื่อรับมือในช่วงที่เศรษฐกิจยังอยู่ในความผันผวน โดยได้ดำเนินการตามแผน Fit Fast Firm ซึ่งจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานต่างๆให้รัดกุมมากขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถรักษากระแสเงินสดได้จำนวน 800 ล้านบาท
ท่ามกลางโควิด-19 ราคาน้ำมันปรับลดลง ส่งผลดีต่อต้นทุนของบริษัท ทำให้ราคาของแก๊สที่เป็นส่วนประกอบการผลิตหลักนั้นลดลงตามไปด้วยซึ่งจะช่วยให้บริษัทลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลงไปได้อีก
สำหรับการลงทุนบริษัทได้มีวางงบลงทุนในปีนี้ทั้งสิ้น 4,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิตและผลิตสินค้าใหม่โดยในปีนี้บริษัทได้ดำเนินการจัดตั้งโรงงานใหม่ในประเทศเมียนมาเพื่อขยายกำลังการผลิตสินค้าให้เพิ่มขึ้น 10-15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะสามารถขยายตลาดในกลุ่มCLMVให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันได้มีการก่อสร้างเสร็จแล้วเรียบร้อย และอยู่ในระหว่างตรวจสอบอาคารซึ่งยังไม่สามารถเดินทางไปได้ จึงได้มีการ Teleconference กับผู้รับเหมาก่อสร้างเพื่อติดตามงานดังกล่าว โดยคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ ในช่วงครึ่งปีหลังของปี2563
ทั้งนี้บริษัทเริ่มมองเห็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวในตลาดประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่บริษัทเข้าไปขยายตลาดใหม่ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเห็นรายได้กลับเข้ามาหลังจากที่มีการคลายมาตรการล็อคดาวน์ในเวียดนามแล้ว ซึ่งการส่งออกในต่างประเทศนั้นมีสัดส่วนอยู่ราวๆ15-16 เปอร์เซ็นต์ โดยบริษัทมุ่งเน้นในกลุ่มCLMV ซึ่งได้รับการตอบรับและทำยอดขายได้ดี โดยเฉพาะประเทศลาวและพม่าที่แม้ว่าจะมียอดขายลดลงในไตรมาส1/2563ที่ผ่านมา แต่สินค้าของบริษัทยังคงมี Marker Share เป็นอันดับ1 ของตลาดในพม่า
นอกจากนี้บริษัทมีสินค้าซึ่งผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ อาทิ เบบี้มายด์ ไบโอแกนิค, เจลล้างมือแบบไม่ใช้น้ำ Healthy Plus , สเปรย์โลชั่นหน้าแบบเย็นสดชื่น, Ole Fruity Frest เป็นต้น ซึ่งบริษัทสามารถทำการออกผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และวางขายตามแหล่งต่างๆ ได้ภายใน1เดือน เพื่อตอบสนองและเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพในช่วงนี้
สำหรับการลาออกของนายเพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานคณะกรรมการบริหารและ CEO เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติให้มีการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการใหม่เพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจ ให้เกิดความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการดำเนินงานในการปรับโครงสร้างดังกล่าว นายเพชร โอสถานุเคราะห์จะขึ้นมาดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการ และได้มอบหมายให้ นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ ผู้บริหารที่มีประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจที่ผ่านงานกับบริษัทไทยและบริษัทข้ามชาติกว่า 40 ปีมาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร โดยตำแหน่ง CEO ได้แต่งตั้งให้ นายธนา ไชยประสิทธิ์ หนึ่งในผู้บริหารรุ่นที่สี่ ของตระกูลโอสถานุเคราะห์ ขึ้นเป็นรักษาการ CEO แต่อย่างไรก็ตามนางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โอสถสภา ยังคงนำทีมผู้บริหารมืออาชีพชุดเดิมซึ่งเป็นทีมที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากหลากหลายด้านจากธุรกิจทั้งในและต่างประเทศซึ่งได้ร่วมงานกับโอสถสภามากว่า 3 ปี