นายประภาส ตั้งอดุลย์รัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอพพลิแคด จำกัด ร่วมกับ Graphisoft เปิดตัว ArchiCAD Thai BIM ซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุดสำหรับผู้รับเหมาไทยโดยเฉพาะพลิกโฉมผู้รับเหมาไทยให้ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ ในงาน AchiCAD Thai BIM for Contractor
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอพพลิแคด จำกัด กล่าวถึงที่มาที่ไปของเทคโนโลยีที่จะพลิกวงการผู้รับเหมาไทย ลดต้นทุน พร้อมทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ ในหัวข้อ Thai BIM Introduction for Contractor ด้วยเทคโนโลยี BIM หรือ Building Information Modeling ซึ่งเป็นการนำ 3D Model + Information เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาการทำงานที่ช้า และมีความผิดพลาดมากมายให้กับผู้รับเหมา โดยที่ซอฟต์แวร์อย่าง ArchiCAD BIM จะช่วยให้ผู้รับเหมาขึ้นโมเดล 3 มิติในคอมพิวเตอร์จาก PDF หรือพิมพ์เขียวที่ได้มาได้อย่างง่ายดาย และทำการประเมินมูลค่างาน เพื่อทำใบเสนอราคาด้วยความถูกต้องแม่นยำ และรวดเร็ว จากนั้น Model 3 มิติ ที่ทำไว้ ก็ยังสามารถทำแบบละเอียด หรือ Shop Drawing ได้ทันทีแบบอัตโนมัติ งานฐานราก งานดิน งานระบบ งานเหล็ก ก็สามารถดีไซน์เป็น 3 มิติ เคลียร์แบบได้ตั้งแต่ต้นจากบนจอคอมพิวเตอร์
ขณะที่เทคโนโลยีแบบเก่าการเขียนแบบ 2 มิติ มีความยุ่งยากและความผิดพลาดสูง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาระในการแก้ไขหน้างานทำให้การทำงานล่าช้าและยังเป็นการเพิ่มต้นทุนโดยใช่เหตุการทำงานในระบบ 3 มิติ ทำให้เห็นภาพที่ชัดเจน ช่างหน้างานหรือโฟร์แมน หรือแม้กระทั่งเจ้าของงานก็สามารถทำความเข้าใจในสิ่งที่กำลังจะทำอยู่ได้ตรงกัน ข้อสำคัญที่สุดของระบบ BIM นี้คือ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแบบหรือปรับเปลี่ยนไม่ว่าจากเจ้าของ สถาปนิก หรือผู้รับเหมาช่วง เราจะทำการแก้ไขเพียงครั้งเดียวบนโมเดล 3 มิติ หรือที่เราเรียกว่า BIM Model แล้วทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะ Material Take Off คือ รายการแสดงจำนวนอุปกรณ์ชนิดต่างๆ ที่ใช้ใน Drawing นั้น แบบละเอียด แบบสถาปัตย์ แบบโครงสร้าง และแบบงานระบบจะถูกแก้ไขโดยอัตโนมัติ ซึ่งทำให้ลดข้อผิดพลาด และทำงานได้รวดเร็วเป็นอย่างมาก
นายสมศักดิ์ วรรักษา ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ A/E/C บริษัท แอพพลิแคด จำกัด กล่าวในหัวข้อ Construction Simulation & Management วางแผนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง พบเครื่องมือวางแผนพร้อมการบริหารโครงการแบบ 4 มิติ เพราะการที่จะเริ่มดำเนินงานก่อสร้างในแต่ละโครงการได้นั้น นอกจากจะมีเรื่องของงบประมาณ สถานที่ กำลังคน ระบบสาธารณูปโภคที่ใช้ในการก่อสร้างแล้ว สิ่งที่จะขาดไม่ได้ก็คือ เรื่องของแบบก่อสร้าง และแผนงานก่อสร้าง ซึ่งในอดีตแบบก่อสร้างส่วนใหญ่เป็น 2 มิติ จนปัจจุบันมาเป็นการออกแบบที่ใช้ระบบ 3 มิติ ตลอดจนมีการพัฒนามาเป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า BIM (Building Information Modeling)
“ถึงแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า BIM แต่การก่อสร้างยังคงแยกเรื่องของ BIM ออกจากการบริหารงานก่อสร้าง ทำให้การบริหารงานก่อสร้างยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายๆคนที่จะทำความเข้าใจ เพราะจะต้องไปจินตนาการว่างานไหนที่ต้องเร่งทำก่อนงานอื่นบ้าง หรือแต่ละวันจะต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องยาก และยังไม่รวมไปถึงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงานที่มีสาเหตุจากการเข้าใจแผนงานที่ไม่ตรงกัน หรือการจัดลำดับงานผิด เนื่องจากมองภาพรวมของงานก่อสร้างไม่ครบถ้วน หรือเกิดจากความเข้าใจแบบก่อสร้างที่ไม่ตรงกัน”
สำหรับปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการนำกระบวนการที่เรียกว่า 4D Construction ซึ่งเป็น กระบวนการทำงานที่มีการนำโมเดล 3 มิติ จาก BIM เข้ามา Link กับแผนงาน เพื่อที่จะแสดงแผนงานก่อสร้างออกมาในรูปแบบของโมเดล 3 มิติ ตลอดจนแสดงผลออกมาเป็นวิดีโอจำลองกระบวนการก่อสร้าง ซึ่งทำให้ทุกฝ่ายที่ทำงานร่วมกันมีความเข้าใจแผนงานได้ชัดเจน และตรงกันมากกว่าที่จะต้องไปจินตนาการลำดับของแผนงานเอาเอง