CK คว้ารางวัล “ SET AWARDS 2022” รุกเมกะโปรเจค มั่น Backlog 2.6 แสนลบ.ปี 66

ช.การช่าง ปลื้มรับรางวัล SET AWARDS 2022  พร้อมเดินแผนลุยโครงการภาครัฐและเอกชน เผยมั่นปี 2566 ชู Backlog  2.6 แสนล้านบาท จากงานในมือ 6 หมื่นล้านบาท  ด้วยคุณภาพมาตรฐานการก่อสร้างในระดับสากล

นางสาวสุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท.ช.การช่าง  จำกัด (มหาชน) หรือ(CK) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้รับรางวัล SET AWARDS 2022 นับเป็นรางวัลที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ส่วนโครงการต่างๆ CK มั่นใจว่างานในมือ หรือแบ็กล็อก (backlog) จะเข้าสู่ระดับ 2.6 แสนล้านบาท มาจากงานในมือ 6 หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสีส้มส่วนต่อขยาย 1.1 แสแสนล้านบาท และงานโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งแบ็กล็อกกว่า 2 แสนล้านบาทนี้จะทยอยรับรู้ในระยะเวลา 8 ปีทำให้แนวโน้มรายได้เฉลี่ยต่อปีน่าจะอยู่ที่ 2.5-3.0 หมื่นล้านบาท ขณะที่แนวโน้มอัตราการทำกำไร หรือมาร์จิ้นน่าจะอยู่ในระดับ 7 เปอร์เซ็นต์ โดยอัตรากำไรสุทธิของโครงการโดยอัตรากำไรสุทธิของโครงการจะอยู่ที่ 3-4 เปอร์เซ็นต์มีกำไรจากธุรกิจก่อสร้าง 800-900 ล้านบาทต่อปี ในปี 2566 นี้ CK มีโอกาสรับงานใหม่เพิ่ม จากโครงการทางด่วนขั้นขั้นที่ 2 วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท ความชัดเจนน่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ของปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการศึกษา EIA
            สำหรับการดำเนินงานและรายได้ปี 2565 อยู่ที่ 18,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 14,419 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 30 เปอร์เซ็นต์โดยบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ณ สิ้นปี 2564 ที่ 45,419 ล้านบาท หลังจากช่วงปลายปีได้งานรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 2 สัญญา รวมมูลค่าโครงการ 22,811 ล้านบาท (ปี 64-70)

 ปี 2565 มี Backlog แตะ 1 แสนล้านบาทได้และจะมีเพิ่มขึ้นในปีต่อๆไป น่าจะเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 50 ปี และยังคาดว่าบริษัทจะมีความชัดเจนในการรับงานโรงไฟฟ้าหลวงพระบางมูลค่างานโครงการใกล้เคียงกับโครงการโรงไฟฟ้าไซยะบุรี นางสาวสุภามาส กล่าว

ส่วนงานภาครัฐจะมีออกประมูลมากกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมีความพร้อมและมั่นใจที่จะเข้าประมูล โดยเฉพาะงานระบบรางที่บริษัทฯมีความถนัดและมีศักยภาพ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก มูลค่า 1 แสนล้านบาท, ส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสายสีแดง 4 เส้นทาง มูลค่า 6.5 หมื่นล้านบาท, รถไฟทางคู่ ระยะ 2, โครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และโครงการขยายท่าอากาศยานดอนเมืองเฟส 3 รวมถึงมอเตอร์เวย์หลายเส้นทาง

กรรมการผู้จัดการใหญ่ CK กล่าวต่อว่า บริษัทมีโอกาสชนะงานประมูลในงานระบบรางใต้ดิน 30-40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นงานที่มีลักษณะความยากและมีคู่แข่งไม่มาก ส่วนงานระบบรางยกระดับก็คาดว่าจะมีโอกาสชนะราว 25 เปอร์เซ็นต์ ส่วนงานรถไฟทางคู่ หรืองานถนน มีโอกาสชนะน้อยลง เพราะมีบริษัทเข้ามาแข่งขันกันมากขึ้น

“งานระบบราง ช.การช่าง มีความถนัด และเป็นงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้นดี ก็น่าจะทำให้บริษัทได้กำไรดี” นางสาวสุภามาส กล่าว

สำหรับราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวเพิ่มขึ้นจากผลกระทบสงครามรัสเซียและยูเครน และการระบาดโควิด-19 ทำให้มีปัญหาซัพพลายเชนนั้น บริษัทฯมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการได้ เพราะงานก่อสร้างของบริษัทมีระยะยาว 4-6 ปี หรืออาจ 7-8 ปี โดยงานรถไฟทางคู่และสายสีม่วงที่เพิ่งรับงานก็ยังมีระยะเวลานานถึงปี 2570 เชื่อว่าจะมีระยะเวลาพอเพียงบริหารจัดการต้นทุนได้ โดยมีบางส่วนที่เจรจาของราคาเดิมไว้ก่อน นอกจากนี้งานภาครัฐก็ยังมีค่า K มาชดเชยต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้น

นอกจากนี้งานโครงการใหญ่ที่ผ่านมาเริ่มทยอยเสร็จใน 1-2 ปีนี้ต้นทุนวัสดุก่อสร้างก็ไม่มีผลกระทบ ส่วนงานที่อยู่ในมืองอื่นก็ยังใช้เหล็กไม่มาก ส่วนงานใหม่ที่กำลังเข้าประมูลก็จะมีราคาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยสรุปแล้วบริษัทฯจะใช้หลายๆวิธีที่จะพยายาม รักษามาร์จิ้นให้ได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง