บริษัท ช.การช่ าง จำกัด (มหาชน)หรือ CK บริษัทรักเหมาก่อสร้างรายใหญ่ไม่ว่าจะเป็นด้านระบบขนส่งมวลชน ทิอากาศยาน ถนน ทางด่วน สะพาน พลังงาน ระบบน้ำและท่าเรือ ฯลฯ เริ่มจดทะเบียนก่อตั้งเป็นบริษัทจำกัดด้วยทุนจดทะเบียนแรกเริ่มจำนวน 1.4 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ปี 2515 ปัจจุบันดำเนินงานครบรอบ 46 ปี
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ปี 2537 บริษัทได้ดำเนินการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดทำให้มีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 700 ล้านบาท และได้เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ปี 2538
ล่าสุด นายประเสริฐ มริตตนะพร กรรมการบริหารและผู้บริหารอาวุโสบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เข้ารับรางวัล หุ้นขวัญใจมหาชน ประจำปี 2560 หรือ Popular Stock Awards ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 จากนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งงานดังกล่าวจัดโดยหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทพร้อมที่จะเข้าประมูลงานก่อสร้างตามนโยบายภาครัฐในทุกโครงการอย่างต่อเนื่อง และจากผลการประมูลในอดีตบริษัทมี Winning rate ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์
สำหรับงานรถไฟฟ้าช่วงใต้ดิน 20-25 เปอร์เซ็นต์ งานรถไฟฟ้าโครงสร้างยกระดับและทางด่วน ซึ่งงานเหล่านี้บริษัทมีความเชี่ยวชาญ สามารถบริหารจัดการด้านการก่อสร้าง การเงิน และดูแลผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี
นอกเหนือจากโครงการที่กล่าวมาข้างต้นแล้วยังมีโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC ที่รัฐบาลจะผลักดันออกมาในเร็วๆนี้ทั้งรูปแบบที่ให้เอกชนเข้าประมูลและรูปแบบความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชนหรือ PPP CK และบริษัทในกลุ่มทั้งหมดได้เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมประมูลอย่างแน่นอน
ประธานกรรมการบริหาร CK เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขณะนี้โครงการก่อสร้างในประเทศยังเป็นเป้าหมายหลักของบริษัทและเรายังได้เตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยี วิศวกรรมและการก่อสร้าง การพัฒนาบุคลากร การเงิน และการเตรียมความพร้อมระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อรองรับโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ในส่วนที่มีการปรับค่าแรงขั้นต่ำบริษัทไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากทางบริษัทเจรจากับผู้รับเหมาเรียบร้อยแล้วขณะที่งานใหม่ที่จะเข้าร่วมประมูลก็ได้คำนวณราคาต้นทุนใหม่ก่อนเสนอทุกโครงการ บริษัทาถือว่าคนของเราเป็นแรงงานที่มีฝีมือและดูแลคนงานอย่างเต็มที่มาตลอด
อย่างไรก็ตามบริษัทมีการเฝ้าระวังเรื่องราคาวัสดุอย่างใกล้ชิด มีการบริหารจัดการวัสดุทั้งในเรื่องราคาและสินค้าคงคลังอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผลกระทบจากราคาวัสดุ ณ ตอนนี้ยังสามารถควบคุมและบริหารจัดการได้
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือมูลค่าประมาณ 85,231 ล้านบาท ซึ่งได้มีการลงนามในโครงการต่างๆ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างสถานีเพิ่มแรงดันเป็นสถานีจ่ายน้ำมูลค่า 303 ล้านบาท, โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี สัญญา ที่ 1 มูลค่า 11,570 ล้านบาท, โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สัญญาที่ 2 มูลค่า 12,060 ล้านบาท, โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สัญญาที่ 5 มูลค่า 2,709 ล้านบาท และ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ช่วงบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา สัญญาที่ 4 มูลค่า 1,852 ล้านบาท และโครงการที่จะลงนามในเร็วๆนี้ คือ โครงการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์งานระบบรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ 2 สัญญา มูลค่าประมาณ 19,463 ล้านบาท ซึ่งโครงการเหล่านี้จะทำให้มูลค่างานในมือของบริษัทพุ่งประมาณ 100,000 ล้านบาท และสามารถรับรู้รายได้ถึง 3 ปีข้างหน้า