TPCH รับแรงหนุนจาก 2 โครงการดันผลงานสดใส ตั้งเป้าขึ้นแท่น 200 MW ในปี2563

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลพัทลุง กรีน เพาเวอร์ และโรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างคาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยและเตรียมจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ ได้ในไตรมาส 2/2560 และไตรมาส 3/2560 ตามลำดับ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ตามภาครัฐมีนโยบายเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน SPP-Hibrid Firm 300 MW และ VSPP-Semi Firm 289 MW กำลังการผลิตรวม 589 MW ในปีนี้ ซึ่งนโยบายพลังงานทดแทนนี้ ส่งผลดีกับกลุ่มโรงไฟฟ้าชีวมวล และเป็นโอกาสช่วยผลักดันให้บริษัทสามารถดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 200 เมกะวัตต์ภายในปี 2563

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนบริษัทมีความพร้อมในการยื่นเอกสารคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะชุมชนกำลังการผลิตติดตั้ง 10 เมกะวัตต์ ให้แก่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ที่จะมีการประกาศเปิดรับเรื่องในเร็วๆนี้ ตั้งเป้าหมายมีโรงไฟฟ้าขยะชุมชนกำลังการผลิตทั้งสิ้น 50 MW ภายในปี 2563

ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศนั้น บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป ลาว ซึ่งขณะนี้ได้ให้บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเม้นท์ เป็นผู้ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ เสบั้งเหียน 1 แขวง สะหวันนะเขต สปป.ลาว ขนาดกำลังการผลิต 52.10 MW คาดว่าจะได้รับผลสรุปรายงานผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการประมาณ เดือนสิงหาคม 2560

แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2560 คาดว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นตามจำนวนโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เดินเครื่องจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในปัจจุบันมีจำนวน 59 เมกะวัตต์ โดยมีโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล จำนวน 4 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าชีวมวล ปัตตานี กรีน โรงไฟฟ้าชีวมวล ทีพีซีเอช เพาเวอร์1 โรงไฟฟ้าชีวมวล ทีพีซีเอช เพาเวอร์2 โรงไฟฟ้าชีวมวล ทีพีซีเอช เพาเวอร์5 และโครงการโรงไฟฟ้าขยะ จำนวน 1 โครงการ คือ โรงไฟฟ้า สยาม พาวเวอร์

นอกจากนี้บริษัทยังมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศและในอาเซียน พัฒนาและดำเนินงานด้านธุรกิจพลังงาน เพื่อให้ก่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้นและนักลงทุนอีกด้วย

ในช่วงไตรแรก1/2560 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวม 235.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103.66 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 78.43เปอร์เซ็นต์ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 132.17 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 63.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 104เปอร์เซ็นต์ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 31.29 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ ได้เรียบร้อยแล้วในปัจจุบันจำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ โรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์  และโรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน